แชร์

ประเภทของวาล์ว

อัพเดทล่าสุด: 11 พ.ย. 2024
326 ผู้เข้าชม

ประตูน้ำ (GATE VALVE)
ทำหน้าที่ในการควบคุมของไหล โดยมีลักษณะการใช้งานแบบเปิดสุด/ปิดสุด (On-Off) โดยสามารถเลือกใช้งานทิศทางของของไหลจากซ้ายไปขวา หรือจากขวาไปซ้ายได้ เหมาะกับการใช้งานในลักษณะงานแบบเปิด/ปิด เป็นหลัก
จุดเด่นของประตูน้ำคือ
       1. ติดตั้งง่าย
       2. มีแรงดันตกคร่อมที่ตัววาล์วน้อย เนื่องจากประตูน้ำจะปล่อยให้ของไหล ไหลผ่านออกไปโดยไม่เปลี่ยนทิศทางการไหลของของไหล
       3. สามารถใช้ในงานแรงดันและอุณหภูมิสูงได้ดี ใช้กับของไหลที่เป็นทั้งของเหลวและก๊าซ
       4. มีประสิทธิภาพการปิดผนึกที่ดี ใช้เป็นวาล์วตัดระบบแยกออกจากัน
       5. สามารถใช้ในระบบท่อลำเลียงที่ของไหลอาจมีการเปลี่ยนทิศทางการไหลได้
ข้อควรระวังในการใช้งานประตูน้ำ
       ไม่เหมาะกับของไหลที่มีสารแขวนลอยหรือของไหลที่เป็นผง และในการเปิด-ปิดวาล์ว จะมีแรงเสียดทานระหว่างลิ้นวาล์ว(Disc) และพื้นผิวปิดผนึกของบ่าวาล์ว(Seat) ทำให้พื้นผิวการปิดผนึกสามารถเกิดรอยขีดข่วนได้ ซึ่งจะมีผลกระทบต่ออายุการใช้งานและประสิทธิภาพการปิดผนึกของวาล์วในอนาคตได้

โกลบวาล์ว (GLOBE VALVE)
       ทำหน้าที่การควบคุมของไหล โดยมีลักษณะการใช้งานเพื่อปรับอัตราการไหลของของไหล และสามารถนำมาใช้งานในลักษณะงานแบบเปิดสุด-ปิดสุด(On-Off) ได้อีกด้วย โดยทิศทางการไหลของโกลบวาล์ว สามารถสังเกตได้จากลูกศรบนตัววาล์ว ในการติดตั้งจะต้องหันไปในทิศทางเดียวกันกับของไหลเสมอ
จุดเด่นของโกลบวาล์วคือ
       1. สามารถปรับอัตราการไหลได้ดี
       2. โครงสร้างของตัววาล์วมีความแข็งแรงมาก
       3. สามารถใช้ในงานแรงดันและอุณหภูมิสูงได้ดี ใช้กับของไหลที่เป็นทั้งของเหลวและก๊าซ
       4. สามารถนำไปทำเป็นวาล์วควบคุมอัตโนมัติ(Control Valves) ได้ หากมีการออกแบบลิ้นวาล์วให้เหมาะสม
ข้อควรระวังในการใช้โกลบวาล์ว
       มีแรงดันตกคร่อมตัววาล์วสูงและของไหลที่ไหลออกจากวาล์วมีการไหลปั่นป่วน ไม่เหมาะสำหรับของไหลที่เป็นโคลนมีความหนืดมาก หรือของไหลที่ผง ซึ่งของแข็งที่เป็นผงที่ค้างอยู่ระหว่างลิ้นวาล์ว(Disc)และบ่าวาล์ว(Seat) จากการกดปิดตัวลงของลิ้นกับบ่าวาล์วมีน้ำหนักมาก จึงส่งผลกระทบต่อการออกแบบโครงสร้าง ไม่เหมาะสำหรับการใช้งานกับของไหลที่ต้องการความสะอาดหรือปราศจากสิ่งเจือปน เนื่องจากการใช้งานโกลบวาล์วมีโอกาสที่จะเกิดสิ่งตกค้างสะสมภายในตัววาล์วได้

เช็ควาล์ว (CHECK VALVE)
       ทำหน้าที่ป้องกันการไหลย้อนกลับของของไหล (Back Flow Prevention) เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความเสียหายของอุปกรณ์ เช่น ปั๊มน้ำ ที่เกิดจากของไหลไหลย้อนกลับมายังทิศทางเดิม เช็ควาล์ว สามารถแบ่งออกได้เป็น 3 ประเภทหลักที่นิยมใช้กันทั่วไปคือ
       1. สวิงเช็ควาล์ว (Swing Check Valve) มีลักษณะลิ้นวาล์วเป็นแบบบานพับ โดยบานพับจะเปิดขึ้นเมื่อมีน้ำไหลผ่านและปิดเมื่อน้ำไหลย้อนกลับ หรือหากไม่มีของไหลในระบบลิ้นวาล์วจะปิดตามแรงโน้มถ่วงของโลก มีแรงดันตกคร่อมที่ตัววาล์วต่ำ สามารถติดตั้งได้ทั้งแนวนอนและแนวตั้ง(ในทิศทางของไหลไหลขึ้นเท่านั้น) ทำขนาดวาล์วตั้งแต่ 2 นิ้วขึ้นไป
       2. ลิฟท์เช็ควาล์ว (Lift Check Valve) มีลักษณะลิ้นวาล์วเป็นแบบขึ้น-ลง โดยลิ้นวาล์วจะยกตัวขึ้นเมื่อมีน้ำไหลผ่าน และจะปิดตัวลงเมื่อแรงดันในท่อลดลงหรือไม่มีของไหลในระบบ มีแรงดันตกคร่อมตัววาล์วสูง สามารถติดตั้งในแนวนอนได้เท่านั้น (กรณีไม่มีสปริงดัน) ถ้ากรณีที่มีสปริงดันก็สามารถติดตั้งได้ทั้งแนวนอนและแนวตั้ง ควรใช้งานกับของไหลที่มีความหนืดต่ำ (Low Viscosity) ส่วนมากขนาดวาล์วไม่เกิน 2 นิ้ว
       3. เช็ควาล์วปีกผีเสื้อ (Wafer Check Valve) มีลักษณะลิ้นวาล์วเป็นแบบบานพับ โดยบานพับจะเปิดขึ้นเมื่อมีน้ำไหลผ่าน(ในทิศทางที่กำหนด )และปิดเมื่อน้ำไหลย้อนกลับ หรือหากไม่มีของไหลในระบบลิ้นวาล์วจะปิดตามแรงดันของสปริง โดยโครงสร้างถูกออกแบบมาให้มีขนาดเล็กและมีความกว้างที่น้อยกว่า (เมื่อเทียบกับสวิงเช็ควาล์ว , ลิฟท์เช็ควาล์ว) จึงทำให้มีน้ำหนักเบา ทำให้ลดน้ำหนักบนท่อเมื่อทำการติดตั้ง มีความดันตกคร่อมที่ต่ำ ประหยัดพื้นที่และง่ายต่อการติดตั้ง ทำขนาดวาล์วตั้งแต่ 2 นิ้วขึ้นไป
ข้อควรระวังในการใช้เช็ควาล์ว
       สำหรับสวิงเช็ควาล์วจะมีเสียงดังเมื่อลิ้นวาล์วไปกระทบกับบ่าวาล์วในขณะที่ลิ้นวาล์วกำลังปิด และมีโอกาสเกิดความเสียหายได้ อาจมีการรั่วไหลถ้าของไหลมีการเจือปนจากตะกอนหรือสิ่งสกปรก

บอลวาล์ว (BALL VALVE)
       ทำหน้าที่ในการควบคุมของไหล โดยมีลักษณะการใช้งานแบบเปิดสุด/ปิดสุด (On-Off) เหมาะกับการใช้งานที่มีการเปิด-ปิดบ่อย โดยสามารถใช้งานด้วยการหมุนก้านวาล์วเพียง 90 องศา (Quarter-Tern) ไม่เหมาะกับการใช้งานที่ต้องการปรับอัตราการไหล
จุดเด่นของบอลวาล์วคือ
       1. สามารถเปิด-ปิดได้อย่างรวมเร็ว เพียงหมุนก้านวาล์ว 90 องศา เหมาะกับงานที่ต้องการเปิด-ปิดบ่อยๆ ได้เป็นอย่างดี
       2. แรงดันตกคร่อมตัววาล์วต่ำ
       3. สามารถปิดการไหลของของไหลได้สนิทและรวดเร็ว ใช้งานเป็นวาล์วระบายกรณีฉุกเฉิน
       4. ใช้กับของไหลที่เป็นทั้งของเหลวและก๊าซ
       5. มีประสิทธิภาพการปิดผนึกที่ดี ใช้เป็นวาล์วตัดระบบแยกออกจากัน
ข้อควรระวังในการใช้บอลวาล์ว
       ไม่เหมาะกับการใช้งานที่มีอุณหภูมิสูงมากๆ หรืองานที่มีของไหลที่มีสิ่งสกปรกหรือตะกอน เพราะอาจทำให้ตัว Seat หรือตัว Ball เป็นรอย ทำให้เกิดการรั่วไหลในอนาคตได้ และจะต้องเลือก Ball Seat ให้เหมาะสมกับอุณหภูมิและแรงดันใช้งานเสมอ

 วาล์วปีกผีเสื้อ (BUTTERFLY VALVE)
       ทำหน้าที่การควบคุมของไหล โดยมีลักษณะการใช้งานเพื่อปรับอัตราการไหลของของไหล เหมาะสำหรับใช้งานเป็นวาล์วเปิด-ปิด โดยมีการไหลผ่านแบบตรงของของไหล จะมีเพียงลิ้นวาล์วที่ขวางการไหลอยู่เท่านั้น
จุดเด่นของวาล์วปีกผีเสื้อคือ
       1. เปิด-ปิดได้สะดวก และสามารถควบคุมอัตราการไหลได้
       2. มีโครงสร้างไม่ซับซ้อน มีรูปแบบที่บางและน้ำหนักเบา
       3. ใช้พื้นที่ในการติดตั้งน้อยกว่าวาล์วชนิดอื่นๆ
       4. การติดตั้งไม่ยุ่งยาก และง่ายต่อการบำรุงรักษา
ข้อควรระวังในการใช้วาล์วปีกผีเสื้อ
       ไม่เหมาะกับการใช้งานที่มีแรงดันสูงและต้องการควบคุมอัตราการไหลอย่างละเอียด เนื่องจาก Seat จะปะทะกับของไหลอยู่ตลอดเวลา อาจทำให้ Seat สึกหรอเร็ว และส่งผลทำให้เกิดการรั่วซึมได้


บทความที่เกี่ยวข้อง
Pipe Standards
มาตราฐานสินค้าภายในประเทศไทย และ มาตราฐานสินค้าในระดับสากล
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
เปรียบเทียบสินค้า
0/4
ลบทั้งหมด
เปรียบเทียบ